ดูดวงโหราศาสตร์ไทย

ดูดวงโหราศาสตร์ไทย


โหราศาสตร์ไทย ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาโหราศาสตร์ ที่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ และมีใช้กันมาอย่างแพร่หลายตั้งแต่อดีต โดยมีความสำคัญที่แม้แต่พระมหากษัตริย์ในสมัยก่อน ยังต้องมีที่ปรึกษาเป็นโหราจารย์ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องโหราศาสตร์ไทย

ว่ากันว่า โหราศาสตร์ไทยนี้เป็นวิชาที่มาจากคัมภีร์พระเวทในศาสนาพราหมณ์ ที่มีอยู่ก่อนพระพุทธศาสนา สืบทอดมาจากอินเดียตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยหลักของวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้น อ้างอิงกับการเคลื่อนที่ของดวงดาวตามหลักดาราศาสตร์ โดยใช้หลักสถิติบันทึกผลของการเคลื่อนที่ และตำแหน่งของดวงดาว ว่ามีผลต่อชีวิตมนุษย์อย่างไร

โปรแกรมดูดวงโหราศาสตร์ไทย

ใส่วันเดือนปีเกิดของคุณในฟอร์มข้างล่างนี้


ชื่อ-สกุล ของท่าน (ไม่บังคับ)
เพศ (ไม่บังคับ)
ชาย หญิง
เกิดวันที่
เวลา
:
น.
สถานที่เกิด
กำลังคำนวณดวงของท่าน โปรดรอสักครู่



คำเตือน เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
วิธีการดูดวงด้วยโหราศาสตร์ไทย
1. โหราศาสตร์ใช้การคำนวณตามหลักดาราศาสตร์ ดังนั้นต้องเลือกวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด จังหวัดและอำเภอที่เกิด ให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นจะเกิดความคลาดเคลื่อนได้
2. หากไม่ทราบเวลาเกิด ให้ลองปรับเปลี่ยนเวลาไปเรื่อยๆ (ปรับเพิ่มครั่งละ 1 ชม.) โดยจะมีผลทำให้ได้ลัคนาราศีเกิดที่ต่างกัน (ลัคนามี 12 ราศี) ลองอ่านดูว่าอันไหนตรงกับตัวเรามากที่สุด ให้คาดว่าเราน่าจะเกิดในช่วงเวลานั้น
3. วันจร คือวันที่ต้องการทำนาย เลือกวันเวลาปัจจุบันเพื่อทำนายดวงช่วงปัจจุบัน หรือระบุวันเวลาที่ต้องการ

ความรู้เบื้องต้นสำหรับโหราศาสตร์ไทย

ราศีในโหราศาสตร์ไทย

ราศีคือตำแหน่งของกลุ่มดาวบนท้องฟ้า โดยโหราศาสตร์ไทยอ้างอิงตามหลักดาราศาสตร์สากล แบ่งได้เป็น 12 ราศี เรียงตามลำดับคือ 1-เมษ 2-พฤษภ 3-มิถุน 4-กรกฏ 5-สิงห์ 6-กันย์ 7-ตุลย์ 8-พิจิก 9-ธนู 10-มังกร 11-กุมภ์ 12-มีน

ลัคนาราศี หมายถึง ตำแหน่งของดวงอาทิตย์อยู่ในราศีใด ในขณะที่ทำมุมกับเจ้าชะตาหรือสรรพสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นในเวลานั้นๆ (พูดให้เข้าใจง่ายๆคือมุมของดวงอาทิตย์สถิตอยู่ในราศีใดในเวลาที่เกิด อ่านเรื่องลัคนาคืออะไร) โดยลัคนามีความสำคัญคือเป็นดั่งตัวแทนของเจ้าชะตา ในการที่ดาวต่างๆจะมาทำมุมและส่งผลถึงเจ้าชะตา

ราศีจักร หมายถึง รูปแสดงตำแหน่งของดวงดาวในราศีต่างๆทั้ง 12 ราศี รูปราศีจักนี้อาจมีความแตกต่างกันออกไป แต่โดยหลักแล้วจะแสดงสิ่งเดียวกัน คือให้สามารถเข้าใจตำแหน่งของดวงดาวในราศีต่างๆ

ดวงดาวในโหราศาสตร์ไทย

ดาวส่วนมากในโหราศาสตร์ไทย อิงจากดาวจริงๆในระบบสุริยะ ยกเว้นราหูซึ่งคือจุดตัดของวงโคจรโลกรอบดวงอาทิตย์ตัดกับวงโคจรดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก นอกจากนั้นโหราศาสตร์ไทยยังแบ่งดาวเป็น 2 ประเภทคือ
1. ดาวศุภเคราะห์ โดยคำว่า ศุภะ แปลว่า ดีงาม ซึ่งมักให้ผลดี แต่บางครั้งก็ให้ผลร้ายได้เช่นกัน แต่ผลนั้นจะแสดงออกมาแบบนุ่มนวล เบาบางกว่าบาปเคราะห์ ส่วนทางให้คุณผลก็ไม่รุนแรงเท่าบาปเคราะห์เช่นกัน ดาวศุภเคราะห์ได้แก่ ดาวพฤหัส(๕) ซึ่งถือว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มีกำลังสูงสุด, ดาวจันทร์(๒), ดาวพุธ(๔), ดาวศุกร์(๖)
2. ดาวบาปเคราะห์ โดยคำว่าบาปนั้นมาจากคำว่า ปาปะ แปลว่า ชั่ว ให้ผลรุนแรงทั้งคุณและโทษ ได้แก่ ดาวเสาร์(๗) ซึ่งถือว่าเป็นดาวบาปเคราะห์ที่มีกำลังสูงสุด, ดาวราหู(๘), ดาวอังคาร(๓), ดาวอาทิตย์(๑)(บางตำราว่าอาทิตย์เป็นได้ทั้งดาวศุภเคราะห์และบาปเคราะห์), เกตุ(๙), มฤตยู(๐)

ตารางแสดงดวงดาวและความหมาย

เลข ชื่อดาว ประเภท บอกเรื่อง กำลัง เวลาโคจร/ราศี
อาทิตย์ บาปเคราะห์ ยศศักดิ์ ประมาณ ๑ เดือน
จันทร์ ศุภเคราะห์ รูปจริต จิตใจ ๑๕ ประมาณ ๒ วันครึ่ง
อังคาร บาปเคราะห์ กล้าแข็ง ขยัน ประมาณ ๔๕ วัน
พุธ ศุภเคราะห์ การพูด ไหวพริบ ๑๗ ประมาณ ๑ เดือน
พฤหัสบดี ศุภเคราะห์ ปัญญาบริสุทธิ์ ๑๙ ประมาณ ๑ ปี
ศุกร์ ศุภเคราะห์ ความสุขทางโลก ๒๑ ประมาณ ๑ เดือน
เสาร์ บาปเคราะห์ โทษทุกข์ ๑๐ ประมาณ ๒ ปี ๖ เดือน
ราหู บาปเคราะห์ ลุ่มหลง มัวเมา ๑๒ ประมาณ ๑ ปี ๖ เดือน
เกตุ บาปเคราะห์ อายุยืน ประมาณ ๕๕ วัน
มฤตยู บาปเคราะห์ ภัยอาเพศ ประมาณ ๗ ปี

ภพเรือนในโหราศาสตร์ไทย

ถ้าจะกล่าวรวมๆ ภพเรือน หมายถึงตำแหน่งของราศีที่บอกเหตุการณ์หรือเรื่องราวของชีวิตในแง่มุมต่างๆ โดยตำแหน่งดังกล่าวจะเปลี่ยนไปตามลัคนา และมีดาวที่เป็นเจ้าของตำแหน่งนั้นอยู่(เรียกว่าดาวเกษตรเจ้าเรือน) โดยหากดาวเจ้าของเรือนนั้นไปอยู่ที่ภพใด ก็จะมีความสัมพันธ์กับเรื่องนั้นๆ โดยแยกอธิบายระหว่างภพกับเรือนได้ดังนี้

ภพ หมายถึง อาณาเขตแห่งราศี ที่มีลัคนาเป็นจุดเริ่มต้น และเป็นการแทนขอบเขต แห่งความหมายของชีวิต ซึ่งเป็นการปรับความหมายของดาว ราศีบนฟ้า ไปสู่ความเกี่ยวพันธ์กับมนุษย์ โดยภพจะเปลี่ยนไปตามลัคนาราศี ดังนั้นคนที่เกิดลัคนาราศีต่างกัน ก็จะมีตำแหน่งของภพต่างๆต่างกัน แต่จะมีจำนวนภพเท่ากันคือ 12 ภพ และเรียงกันเป็นลำดับเหมือนกันดังนี้

ภพที่ 1 ตนุ เป็นที่ตั้งของลัคนา(ลั) ถือเป็นจุดกำเนิดของบุคคลในจักรราศี
หมายถึง ตัวตนของเจ้าชะตา
ภพที่ 2 กดุมภะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 1 ราศี
หมายถึง การเงิน รายได้ของเจ้าชะตา
ภพที่ 3 สหัชชะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 2 ราศี
หมายถึง เพื่อน พี่น้อง คนใกล้ชิด ข่าวสาร การเดินทางระยะใกล้
ภพที่ 4 พันธุ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 3 ราศี
หมายถึง สิ่งที่ติดมากับชะตามาตั้งแต่กำเนิด เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง บ้าน ที่ดิน
ภพที่ 5 ปุตตะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 4 ราศี
หมายถึง บุตร บริวาร สิ่งที่เจ้าชะตาต้องดูแล
ภพที่ 6 อริ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 5 ราศี
หมายถึง ปัญหา อุปสรรคต่างๆ โรคภัยไข้เจ็บ ภาระ ความทุกข์ต่างๆ
ภพที่ 7 ปัตนิ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 6 ราศี
หมายถึง คู่ครอง การแต่งงาน การทำธุรกิจที่มีคู่สัญญา หุ้นส่วน
ภพที่ 8 มรณะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 7 ราศี
หมายถึง การสูญเสีย การสิ้นสุดของบางสิ่ง มรดก พินัยกรรม ทางไกล ต่างจังหวัด ต่างประเทศ
ภพที่ 9 ศุภะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 8 ราศี
หมายถึง ความสงบ ความเรียบร้อย ความสุข การเดินทางไกลไปต่างประเทศ
ภพที่ 10 กัมมะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 9 ราศี
หมายถึง การงาน อาชีพ กรรมเก่า
ภพที่ 11 ลาภะ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 10 ราศี
หมายถึง โชคลาภ ความสำเร็จ โชคดี การได้รับความช่วยเหลือ
ภพที่ 12 วินาศ เป็นตำแหน่งราศีที่ถัดไปจากลัคนา 11 ราศี
หมายถึง ความเสียหาย ความอึดอัด การไม่มีอิสระภาพ การมีรายจ่าย เกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน

ส่วน เรือน หมายถึง อาณาเขตของราศี ที่อยู่ในครอบครองของดาว(ดาวเจ้าของเรือนนั้นๆเรียกว่าดาวเกษตร) โดยแต่ละราศีจะมีดาวเกษตรเป็นของตัวเอง ทางโหราศาสตร์เรียกดาวเจ้าของเรือนนั้นว่าดาวเกษตรเรือนใน

ดาวเกษตรเจ้าของราศี

ราศีที่ ชื่อราศี ดาวเกษตร
1 ราศีเมษ อังคาร(๓)
2 ราศีพฤษภ ศุกร์(๖)
3 ราศีมิถุน พุธ(๔)
4 ราศีกรกฏ จันทร์(๒)
5 ราศีสิงห์ อาทิตย์(๑)
6 ราศีกันย์ พุธ(๔)
7 ราศีตุลย์ ศุกร์(๖)
8 ราศีพิจิก อังคาร(๓)
9 ราศีธนู พฤหัส(๕)
10 ราศีมังกร เสาร์(๗)
11 ราศีกุมภ์ ราหู(๘)
12 ราศีมีน พฤหัส(๕)

ตัวอย่าง - ลัคนาราศีเมษลัคนาจะอยู่ที่ราศีเมษ โดยดาวเกษตรประจำราศีเมษ คือ อังคาร(๓) ดังนั้นดาวอังคาร(๓) จึงเป็นตัวแทนของเจ้าชะตา หากมีดาวมาทำมุมดีหรือมุมร้าย ก็จะส่งผลถึงตัวเจ้าชะตาในเรื่องตัวตน สุขภาพ ส่วนภพกดุมภะ(การเงิน)อยู่ในราศีพฤษภ มีดาวศุกร์(๖)เป็นเกษตรเจ้าเรือน ดังนั้นหากดาวศุกร์(๖) ไปอยู่ที่ภพเรือนใด แล้วมีดาวมาทำมุมดีหรือมุมร้าย ก็จะส่งผลถึงเรื่องการเงินของเจ้าชะตา

หมายเหตุ
1. การหาลัคนาในโปรแกรมนี้ ใช้ลัคนาอันโตนาทีสามัญ อาทิตย์อุทัย 06:00น.,ปรับเวลาท้องถิ่น (เนื่องจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ทำนาย วีธีนี้ให้ผลการทำนายที่แม่นยำที่สุด) ดังนั้นตำแหน่งลัคนาอาจแตกต่างจากโปรแกรมอื่นสำหรับผู้ที่เกิดคาบราศี
2. เนื่องจากโหราศาสตร์ไทยมีความซับซ้อนและข้อยกเว้นมากมาย คำทำนายจากโปรแกรมดูดวงด้วยโหราศาสตร์ไทย เป็นเพียงคำทำนายคร่าวๆ อาจมีความคลาดเคลื่อน ไม่ควรนำไปใช้อ้างอิงใดๆ
3. อย่าให้คำทำนายอยู่เหนือการกระทำ หัวใจหลักของโหราศาสตร์คือการทำนายอิทธิพลที่ดาวมีต่อเรา หากเรามุ่งมั่นตั้งใจย่อมสามารถเอาชนะ หรือลดอิทธิพลของดวงดาวลงมาได้
4. หากคำทำนายนี้ล่วงเกินท่าน ทำให้ไม่สบายใจ หรือทำให้เกิดความไม่พอใจใดๆก็ตาม ขอท่านให้อภัยใทางผู้จัดทำด้วย
อ้างอิง
*ตำแหน่งดวงดาวในโปรแกรมทำนายด้วยโหราศาสตร์ไทยนี้ ใช้ตำแหน่งที่คำนวณจากปฏิทินโหราศาสตร์ไทยสุริยยาตร์ ซึ่งเป็นปฏิทินภูมิปัญญาไทยโบราณ และเป็นหัวใจหลักของโหราศาสตร์ไทย โดยสูตรการคำนวณปฏิทินโหราศาสตร์ไทยสุริยยาตร์นี้ นำความรู้และสูตรการคำนวณมาจาก
1. พระคัมภีร์สุริยยาตร์ศิวาคม - พ.อ.(พิเศษ)เอื้อน มณเฑียรทอง
2. ตำราพระสุริยยาตร์และมานัตต์ - หลวงวิศาลดรุณกร (อั้น สาริกบุตร)
ซึ่งหากมีข้อผิดพลาดใดๆจากการคำนวณ อาจเป็นเพราะผู้พัฒนาโปรแกรมมีความเข้าใจไม่ดีพอ สำหรับผู้ที่สนใจศึกษา ลองไปศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมได้จากหนังสือดังกล่าว

ดูดวงที่เกี่ยวข้อง


เว็บไซต์นี้ใช้ cookie เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รายละเอียด